พิษตะกั่ว

Last updated: 6 ต.ค. 2568  |  287 จำนวนผู้เข้าชม  | 

พิษตะกั่ว

พิษตะกั่ว


พิษตะกั่ว (Lead poisoning) คืออะไร?
พิษตะกั่ว คือภาวะที่ร่างกายมีตะกั่วสะสมในระดับสูงเกินไปจนเกิดผลเสียต่อสุขภาพ ตะกั่วเป็นโลหะหนักที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ง่าย จึงสะสมในเลือด กระดูก และอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง ไต และตับ หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิด ความเสียหายถาวร

สาเหตุของพิษตะกั่ว
เราสามารถได้รับตะกั่วได้หลายทาง โดยเฉพาะจากสิ่งแวดล้อมและของใช้บางชนิด
1.แหล่งในบ้านและของใช้ส่วนตัว
-สีบ้านเก่า ของเล่นเด็กเก่า เครื่องใช้เคลือบสีบางชนิด
-น้ำประปาที่ผ่านท่อเก่าที่มีตะกั่ว
2.แหล่งจากอุตสาหกรรมและงานอาชีพ
-การทำงานในโรงงานแบตเตอรี่ สี โลหะ หรือการผลิตท่อและอุปกรณ์โลหะ
-สูดฝุ่นหรือควันจากโรงงานที่มีตะกั่ว
3.อาหารและน้ำ
-น้ำดื่มหรืออาหารที่ปนเปื้อตะกั่ว
-บางเครื่องเคลือบอาหารเก่า เช่น หม้อหรือถ้วยบางประเภท
 
อาการของพิษตะกั่ว
เด็ก มักมีอาการที่สังเกตได้ยากในตอนแรก แต่สามารถส่งผลต่อพัฒนาการและสมอง:
-พัฒนาการช้า เรียนรู้หรือพูดช้า
-สมาธิสั้น ก้าวร้าวหรือหงุดหงิดง่าย
-ปวดท้อง ท้องผูก เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน
-ในกรณีรุนแรง: ชักหรือโคม่า
ผู้ใหญ่ มักมีอาการดังนี้:
-อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ปวดศีรษะ
-ปวดท้อง ท้องผูก หรือปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร
-ความดันสูง ปัญหาไต
-ระบบประสาทเสื่อม กล้ามเนื้ออ่อนแรง
-ในกรณีรุนแรง: ชัก โคม่า หรือไตวาย

**หมายเหตุ: การรักษาเฉพาะตัวอาจต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ**

การวินิจฉัยพิษตะกั่ว
1.ประวัติการสัมผัสตะกั่ว เช่น ทำงานกับสีหรือโลหะเก่า ใช้ของเล่นเก่า
2.ตรวจเลือดหาตะกั่ว (Blood lead level, BLL) เพื่อประเมินปริมาณตะกั่วในร่างกาย
3.ตรวจปัสสาวะหรืออวัยวะอื่น ๆ ในกรณีที่พิษรุนแรง
4.อาจทำ X-ray เพื่อดูการสะสมของตะกั่วในกระดูก

การรักษา
1.ตัดแหล่งสัมผัสตะกั่ว ให้เร็วที่สุด
2.รักษาตามอาการ เช่น ปวดท้อง ปวดศีรษะ คลื่นไส้
3.การใช้ยาขับตะกั่ว (Chelation therapy)
-สำหรับผู้ที่มีระดับตะกั่วในเลือดสูง
-ตัวอย่างยา: EDTA, DMSA, Dimercaprol
4.ดูแลภาวะแทรกซ้อน เช่น ไตวายหรือชัก

การป้องกัน
-หลีกเลี่ยงการสัมผัสตะกั่ว จากของใช้เก่า โรงงาน หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย
-ล้างมือและล้างผักผลไม้ให้สะอาด ก่อนรับประทาน
-ตรวจน้ำประปาและสีบ้านเก่า หากอาศัยในบ้านที่สร้างก่อนปี 2523 (ซึ่งอาจมีสีตะกั่ว)
-ให้เด็กเลี่ยงของเล่นเก่า หรือของที่อาจมีตะกั่ว

ควรหรือไม่ควร
-ควรตรวจและรักษาอย่างเร็ว เพราะตะกั่วสะสมสามารถทำลายสมองและอวัยวะถาวร
-ควรหลีกเลี่ยงแหล่งตะกั่ว ทั้งในบ้านและที่ทำงาน
*ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาการอาจรุนแรงและถาวร

 

สรุป
พิษตะกั่วเกิดจากการสะสมตะกั่วในร่างกายจากอาหาร น้ำ ของเล่นเก่า หรือการทำงานกับโลหะ ทำให้สมอง ไต และระบบเลือดเสียหายได้

ควรหลีกเลี่ยงแหล่งตะกั่วและรักษาโดยแพทย์ รวมถึงใช้ยาขับตะกั่วเมื่อระดับสูง เพื่อป้องกันอาการรุนแรงถาวร

 





เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้