Last updated: 30 ก.ย. 2568 | 16 จำนวนผู้เข้าชม |
Hydration for Athletes
Hydration for Athletes: การดื่มน้ำและสมดุลน้ำในนักกีฬา
การออกกำลังกายและการเล่นกีฬาไม่ว่าจะเป็นระดับสมัครเล่นหรือระดับแข่งขัน สิ่งที่มักถูกมองข้ามแต่มีความสำคัญมากคือ การดูแลสมดุลน้ำ (Hydration) เพราะหากร่างกายเสียสมดุลน้ำเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ประสิทธิภาพการเล่นกีฬาลดลง และถ้ารุนแรงอาจกระทบต่อสุขภาพถึงขั้นอันตราย
Hydration คืออะไร
Hydration หมายถึง ภาวะที่ร่างกายมีน้ำและเกลือแร่ (electrolytes) สมดุลพอเหมาะต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ ระบบประสาท และระบบไหลเวียนโลหิต สำหรับนักกีฬา การดูแล hydration ไม่ใช่แค่ดื่มน้ำ แต่ยังรวมถึง การควบคุมเกลือแร่ เช่น โซเดียมและโพแทสเซียม ด้วย
สาเหตุของภาวะเสียสมดุลน้ำในนักกีฬา
1.การขาดน้ำ (Dehydration)
-เสียเหงื่อมากกว่าที่ร่างกายได้รับน้ำกลับคืน
-ออกกำลังกายกลางแจ้งหรืออากาศร้อนจัด
-ดื่มน้ำน้อยเกินไปเพราะกลัวแน่นท้อง
2.การดื่มน้ำมากเกินไป (Overhydration/Exercise-associated hyponatremia)
-ดื่มน้ำในปริมาณมากเกินไปในเวลาสั้น ๆ
-ไม่ได้รับโซเดียมพอเพียง ทำให้ระดับโซเดียมในเลือดลดลง (ภาวะโซเดียมต่ำ)
อาการที่ควรสังเกต
-ขาดน้ำ: กระหายน้ำ ปากแห้ง ผิวแห้ง ปัสสาวะเข้มและน้อย เวียนศีรษะ เป็นตะคริว อ่อนเพลีย
-ดื่มน้ำมากเกินไป: ปวดศีรษะ คลื่นไส้ มือเท้าบวม มึนงง สับสน และในกรณีรุนแรงอาจชักหรือหมดสติ
การวินิจฉัย
-แพทย์จะอาศัยการซักประวัติ เช่น ปริมาณน้ำที่ดื่ม ระยะเวลาออกกำลังกาย -การตรวจร่างกาย เช่น อัตราการเต้นหัวใจ ความดัน น้ำหนักตัวก่อน-หลังแข่ง
-การตรวจเลือด (ในรายรุนแรง) เพื่อดูค่าโซเดียมและอิเล็กโทรไลต์อื่น ๆ
การรักษา
1.ภาวะขาดน้ำ
-ดื่มน้ำสะอาดหรือเครื่องดื่มเกลือแร่ (sports drink)
-ถ้ารุนแรง ใช้การให้สารน้ำทางหลอดเลือด
2.ภาวะดื่มน้ำเกิน
-หยุดการดื่มน้ำชั่วคราว
-ให้สารละลายโซเดียม หรือในรายหนักให้สารน้ำที่มีเกลือเข้มข้นในโรงพยาบาล
ควรหรือไม่ควร
-ดื่มน้ำก่อน ระหว่าง และหลังออกกำลังกาย
-ใช้เครื่องดื่มเกลือแร่เมื่อต้องเล่นกีฬาหรือออกกำลังกายเกิน 1 ชั่วโมง
-ชั่งน้ำหนักก่อนและหลังการแข่ง เพื่อประเมินปริมาณน้ำที่สูญเสีย
-ดื่มน้ำรวดเดียวมาก ๆ ในเวลาสั้น ๆ
-พึ่งแต่น้ำเปล่าเพียงอย่างเดียวเมื่อต้องเล่นกีฬาหนักและยาวนาน
-รอจนกระหายมากแล้วค่อยดื่มน้ำ เพราะอาจสายเกินไป
30 ก.ย. 2568
19 ก.ค. 2566
29 ก.ย. 2568
19 ก.ค. 2566