Last updated: 2 ต.ค. 2568 | 12 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคติดเชื้อ คริปโตค็อกคัส
Cryptococcosis คืออะไร
Cryptococcosis เป็นการติดเชื้อราที่เกิดจากเชื้อ Cryptococcus โดยเฉพาะ Cryptococcus neoformans และ Cryptococcus gattii เชื้อรานี้มักพบในดินหรือมูลนกพิราบ เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายทางการสูดดม และอาจแพร่เข้าสู่กระแสเลือดไปยัง สมองและไขสันหลัง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis)
สาเหตุ
-เชื้อรา Cryptococcus neoformans / gattii
-ปัจจัยเสี่ยง:
-ภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS, ผู้ที่รับยากดภูมิคุ้มกันหลังการปลูกถ่ายอวัยวะ, ผู้ป่วยมะเร็งบางชนิด
-การสัมผัสมูลนกหรือสิ่งแวดล้อมที่มีเชื้อรา
อาการ
ขึ้นอยู่กับส่วนที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย:
1. ปอด (ทางเข้าส่วนใหญ่)
-ไอแห้งหรือมีเสมหะ มีไข้ต่ำ ๆ
-หายใจลำบากหรือเจ็บหน้าอก
2. ระบบประสาท (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
-ปวดศีรษะรุนแรง ไข้
-คลื่นไส้อาเจียน ซึมลง สับสน หรือเปลี่ยนพฤติกรรม
-แขนขาอ่อนแรง หรือชัก
3. การติดเชื้ออื่น ๆ (น้อยครั้ง)
-ผื่นบนผิวหนัง
-ตาอักเสบ การติดเชื้อที่อวัยวะอื่น ๆ
การวินิจฉัย
-ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-การตรวจหาเชื้อราจาก เลือด หรือ น้ำไขสันหลัง
-การเพาะเชื้อราจากน้ำไขสันหลัง
-การทดสอบ Cryptococcal antigen (CrAg) ในเลือดหรือน้ำไขสันหลัง
-การตรวจทางรังสี
-เอกซเรย์ปอด หรือ CT scan หากสงสัยปอดอักเสบ
-การตรวจเพิ่มเติม
-การตรวจเลือดเพื่อประเมินภูมิคุ้มกัน
-ตรวจ HIV หากยังไม่ทราบสถานะ
การรักษา
ขึ้นกับความรุนแรงและส่วนที่ติดเชื้อ:
1. การติดเชื้อรุนแรง (เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ)
-ยาต้านเชื้อรา Amphotericin B ร่วมกับ Flucytosine ช่วงเริ่มต้น
-ต่อด้วย Fluconazole เป็นการรักษาต่อเนื่อง
2. การติดเชื้อปอดหรือผิวหนังที่ไม่รุนแรง
-Fluconazole ขนาดมาตรฐาน
-ระยะเวลารักษาอาจหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
ข้อควรระวัง
-ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันต่ำต้องรักษานานกว่า
-ต้องติดตามผลการรักษาและตรวจหาเชื้อซ้ำ
ควรหรือไม่ควร
-ควรตรวจและรักษา ทันทีหากสงสัย Cryptococcosis โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เพราะอาการอาจรุนแรงและถึงชีวิตได้
*ไม่ควร เพิกเฉยเมื่อมีไข้ ปวดศีรษะรุนแรง หรือผู้ป่วย HIV มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท
23 มิ.ย. 2568
30 ก.ย. 2568
23 มิ.ย. 2568
20 มิ.ย. 2568