Last updated: 20 มิ.ย. 2568 | 18 จำนวนผู้เข้าชม |
โรซาเซีย
โรซาเซีย (Rosacea): โรคผิวหนังเรื้อรังที่มากกว่าแค่หน้าแดง
คุณเคยรู้สึกว่าผิวหน้าแดงง่ายเกินไป แดงจนเหมือนจะลุกเป็นไฟเวลาเจอแดด ดื่มแอลกอฮอล์ หรือทานของเผ็ดหรือไม่? หากใช่… นั่นอาจไม่ใช่แค่ “ผิวแพ้ง่าย” แต่อาจเป็นสัญญาณของ โรคโรซาเซีย (Rosacea) – ภาวะเรื้อรังที่หลายคนยังไม่รู้จักอย่างลึกซึ้ง
โรซาเซียคืออะไร?
โรซาเซียเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่มีลักษณะเด่นคือ ผิวหน้าแดง เห็นเส้นเลือดฝอยชัด และบางครั้งมีผื่นนูนหรือหนองคล้ายสิว ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน หลอดเลือด และจุลินทรีย์บนผิวหนัง
ลึกลงไป: ร่างกายเกิดอะไรขึ้นเมื่อเป็นโรซาเซีย?
1. ระบบภูมิคุ้มกันไวเกิน (Overactive Innate Immunity)
ผู้ป่วยโรซาเซียมักมีการทำงานของภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (innate immunity) ที่ไวผิดปกติ โดยเฉพาะสารต้านเชื้อแบคทีเรียชื่อว่า Cathelicidin (LL-37) ที่ทำให้เกิดการอักเสบและขยายตัวของหลอดเลือด
2. หลอดเลือดขยายผิดปกติ (Vascular Dysregulation)
เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหน้ามีความไวต่ออุณหภูมิและสิ่งกระตุ้น เช่น แสงแดด หรือแอลกอฮอล์ เมื่อถูกกระตุ้น หลอดเลือดจะขยายออกมากกว่าปกติ ทำให้หน้าแดงและเกิด “flushing” (หน้าแดงเป็นพัก ๆ)
3. ไรขน Demodex เพิ่มขึ้น
บนผิวคนเรามีไรขนเล็ก ๆ ชื่อ Demodex folliculorum อาศัยอยู่เป็นปกติ แต่ในผู้ป่วยโรซาเซียมักพบจำนวนมากผิดปกติ และมีหลักฐานว่าไรขนนี้อาจกระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้
4. Skin Barrier อ่อนแอ
ผิวของผู้ป่วยโรซาเซียมักสูญเสียเกราะป้องกัน ทำให้ระคายเคืองง่าย และมีอาการแสบ แห้ง ลอก หรือไวต่อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
อาการแบบต่าง ๆ ของโรซาเซีย
•แดงถาวร (Persistent Erythema): ผิวหน้าแดงตลอดเวลา โดยเฉพาะบริเวณแก้ม จมูก และหน้าผาก
•แดงเป็นพัก ๆ (Flushing): หน้าแดงฉับพลันเมื่อเจอสิ่งกระตุ้น เช่น ดื่มกาแฟ อารมณ์เครียด หรืออากาศร้อน
•ตุ่มนูนคล้ายสิว (Papules/Pustules): มักเกิดพร้อมการอักเสบ แต่ไม่มีหัวสิว
•เห็นเส้นเลือดฝอย (Telangiectasia): เส้นเลือดขยายแบบตาข่ายใต้ผิว
•ตาอักเสบ (Ocular Rosacea): ตาแดง แสบตา มีขี้ตาเหนียว เจ็บตาในบางคน
•ผิวหนังหนา (Phymatous): โดยเฉพาะบริเวณจมูก ซึ่งอาจพองหนาเป็นก้อน (rhinophyma)
โรซาเซียวินิจฉัยอย่างไร?
แพทย์ผิวหนังจะวินิจฉัยจากลักษณะผิวและอาการ ถ้าจำเป็น อาจมีการขูดผิว ตรวจหาปรสิต Demodex หรือส่งตรวจตัดชิ้นเนื้อผิวหนังเพื่อแยกโรคอื่น เช่น โรคเอสแอลอี (SLE), โรคผิวหนังติดเชื้อ หรือสิวเรื้อรัง
การรักษาโรซาเซีย: ไม่ใช่แค่ยาทา
1. ยาทาเฉพาะที่ (Topical Therapy) Metronidazole: ต้านการอักเสบ ลดตุ่มหนองAzelaic acid: ลดผื่นและรอยแดง, Ivermectin: ฆ่า Demodex, Brimonidine/oxymetazoline: ช่วยหดเส้นเลือด ลดหน้าแดงชั่วคราว
2. ยารับประทาน (Oral Therapy) Doxycycline: ใช้ในขนาดต่ำเพื่อลดการอักเสบ, Isotretinoin: ในรายที่รุนแรง ดื้อยา หรือมี phymatous rosacea
3. เลเซอร์และแสง (Laser/IPL) Pulsed dye laser (PDL) หรือ intense pulsed light (IPL) ช่วยลดเส้นเลือดฝอยและหน้าแดงถาวร
4. การดูแลตา ล้างเปลือกตา ใช้น้ำตาเทียม กรณีอักเสบรุนแรง ควรพบจักษุแพทย์
โรซาเซียกับจิตใจ: โรคที่มองเห็นได้บนใบหน้า
ผู้ป่วยโรซาเซียหลายคนมีภาวะ วิตกกังวลหรือซึมเศร้า เนื่องจากความไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ การมีผิวแดงหรือตุ่มนูนเรื้อรังอาจกระทบต่อการทำงาน การเข้าสังคม และความสัมพันธ์ ต้องการการสนับสนุนจากครอบครัวและผู้เชี่ยวชาญ
โรคนี้รักษาหายขาดไหม?
โรซาเซียไม่มีทางหายขาด แต่สามารถควบคุมให้อยู่ในระยะสงบได้ด้วยการรักษาอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น และดูแลผิวให้เหมาะสมกับสภาพของตัวเอง
สรุป
ถ้า “หน้าแดง” เป็นมากกว่าปกติ อาจถึงเวลาปรึกษาแพทย์ผิวหนัง การเข้าใจโรซาเซียไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่คือความรู้เพื่อดูแลสุขภาพผิวและจิตใจอย่างรอบด้าน โรคนี้ควรได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้อง อย่ารอให้ผิวอักเสบรุนแรงหรือเสียความมั่นใจในการใ'ช้ชีวิตประจำวัน
คำแนะนำ: ถ้าเริ่มมีอาการควรรีบพบแพทย์ผิวหนัง ไม่ควรซื้อยามาทาเอง เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง (โดยเฉพาะสเตียรอยด์ที่ทำให้ผิวบางและเส้นเลือดฝอยขยายมากขึ้น)
20 มิ.ย. 2568
20 มิ.ย. 2568
20 มิ.ย. 2568
20 มิ.ย. 2568