Last updated: 6 ส.ค. 2567 | 10730 จำนวนผู้เข้าชม |
Erythema multiforme
มีลักษณะบวมแดง บางเวลาแตกเป็นตุ่มน้ำ ในรูปแบบอาการเล็กน้อย จะเป็นผื่นแดงสามารถหายเองได้และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน พบในเด็กและวัยรุ่น เกิดขึ้นนประมาญ1-2ครั้งต่อปีเป็นอยู่ประมาณ2-4สัปดาห์ รูปแบบรุนแรง เรียกว่าStevens-Johnson syndrome หรือerythema multiforme major มักมีอาการรุนแรงจำเป็นต้องได้รับการรักษาและอยู่ในโรงพยาบาล
สาเหตุ
กว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยไม่ทราบสาเหตุ สาเหตุของการระคายเคืองทางผิวหนังส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อ แพ้ยา เช่น เพนนิซลิน หรือวัคซีน หรือ อาการแพ้ท้อง ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อากรเจ็บป่วยหรือมะเร็ง
อาการ
ผิวหนังรูปแบบย่อย ๆ จะเป็นจ้ำแดงหรือตุ่มน้ำใสตามหน้า ปาก แขน ขาทั้งสองข้างของร่างกาย ลักษณะจ้ำเป็นรูปคล้ายเป้าธนู และขยายขนาดเป็นตุ่มน้ำได้ ไข้ ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อเกิดได้ ในรูปแบบรุนแรง จะมีไข้สูง ตุ่มน้ำพอง คันมาก แตกเป็นแผลตามเนื้อเยื่อในปาก จมูก ตา อวัยวะเพศ แขน ผิวหนัง หกามมีภาวะแทรกซ้อนอาการจะหายไปใน 4สัปดาห์ แต่แผลในปากจะมีอาการเจ็บอยู่เป็นเดือน ส่วนตาหากไม่รักษาอาจทำให้ตาบอดได้
การวินิจฉัย
แพทย์ตรวจผื่น และซักประวัติ ตรวจเลือดเพื่อตรวจสอบการติดเชื้อ การตัดชิ้นเนื้อเพื่อตัดสาเหตุโรคอื่น ๆ ออกไป
การรักษา
เจาะจงบริเวณสาเหตุและอาการ หากมีอาการแพ้ยา ให้หยุดยานั้น ๆ หากติดเชื้อแบคทีเรีย ให้ใช้ยาปฏิชีวนะ อาการคันผิวเพียงสารให้ความชุมชื้นอาการจะทุเลาลง ใช้น้ำยาบ้วนปากสำหรับแผลในปาก ล้างตาด้วยน้ำเกลือหรือยาทาบริเวณผิวใกล้ตา อาจปรึกษาจักษุแพทย์ร่วมด้วย หากมีอาการรุนแรงจำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาล
สิ่งที่ควรทำ
ควรรีบรักษาอาการใดที่นำไปสู่ผื่นอีริทิมามัลติฟอร์เม และหลีกเลี่ยงสารหรือยาที่ก่อให้เกิดอาการ
ควรกินอาหารอ่อนหรือเหลวเมื่อปากมีแผล
ควรใช้ผ้าเย็นประคบบริเวณตุ่มน้ำ
ควรรีบพบแพทย์หากปวดตา อาเจียนหรือท้องเสีย
ควรแจ้งแพทย์หากมีอาการผิดปกติใหม่ๆกำเริบหรือแย่ลงกว่าเดิม
ห้ามทำ
ห้ามทาครีมหรือน้ำมันบนแผลที่มีเลือดออก
ห้ามอาบหรือแช่น้ำร้อน อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
16 ส.ค. 2566
12 มิ.ย. 2566
16 ส.ค. 2566
19 ก.ค. 2566