การสวนหัวใจเพื่อเปิดหลอดเลือดโคนารี

Last updated: 23 มิ.ย. 2568  |  32 จำนวนผู้เข้าชม  | 

การสวนหัวใจเพื่อเปิดหลอดเลือดโคนารี

การสวนหัวใจเพื่อเปิดหลอดเลือดโคนารี


Percutaneous Coronary Intervention (PCI): การรักษาหลอดเลือดหัวใจตีบที่ไม่ต้องผ่าตัด

การทำ Percutaneous Coronary Intervention (PCI) หรือที่รู้จักกันในชื่อการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูน หรือการใส่ขดลวด (stent) เป็นกระบวนการที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดหัวใจตีบหรืออุดตัน โดยไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดใหญ่เหมือนการผ่าตัดเปิดหัวใจ โดย PCI เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือดและลดอาการของโรคหัวใจ

ความหมายและหลักการของ PCI
Percutaneous Coronary Intervention (PCI) เป็นวิธีการที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีการตีบตันของหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease: CAD) ซึ่งทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก (Angina) หรือกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial Infarction: MI) โดย PCI จะช่วยเปิดหลอดเลือดที่ตีบตันและฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น

กระบวนการทำ PCI
1.การเตรียมตัวของผู้ป่วย: ก่อนการทำ PCI แพทย์จะทำการตรวจสอบประวัติการแพ้ยา ตรวจสอบผลการทดสอบต่าง ๆ เช่น การทดสอบการทำงานของหัวใจ (ECG, Echocardiogram) และอาจมีการใช้การตรวจสวนหัวใจ (Cardiac Catheterization) เพื่อระบุจุดที่หลอดเลือดตีบตันอย่างชัดเจน
2.การใส่สายสวน (Catheterization): แพทย์จะทำการใส่สายสวน(catheter)ผ่านทางเส้นเลือดใหญ่ที่ขาหรือแขน โดยใช้เครื่องมือพิเศษที่สามารถถ่ายภาพภายในหลอดเลือด (Fluoroscopy)เพื่อให้เห็นตำแหน่งที่หลอดเลือดตีบตัน
3.การขยายหลอดเลือด (Balloon Angioplasty): เมื่อสายสวนไปถึงบริเวณที่ตีบตัน แพทย์จะใส่บอลลูนที่ปลายของสายสวนและขยายบอลลูนเพื่อเปิดหลอดเลือดที่ตีบตัน กระบวนการนี้จะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
4.การใส่ขดลวด (Stent Placement): หากหลอดเลือดยังคงมีโอกาสตีบตันซ้ำหลังการขยายตัวแพทย์จะทำการใส่ขดลวด(stent)ซึ่งเป็นโครงสร้างโลหะที่มีลักษณะคล้ายตาข่ายและช่วยพยุงให้หลอดเลือดคงอยู่ในสภาพที่เปิดกว้าง
5.การติดตามผลหลังการทำ PCI: หลังจากเสร็จสิ้นการทำ PCI ผู้ป่วยจะต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลเพื่อการติดตามการไหลเวียนของเลือด และการเฝ้าระวังการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น การเกิดเลือดออกจากจุดที่ใส่สายสวน

ข้อดีของ PCI
•ฟื้นตัวเร็ว: เนื่องจากเป็นการรักษาที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดเปิดหัวใจ ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เร็วกว่า
•ลดความเสี่ยงจากการเจ็บหน้าอก: การทำ PCI ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดกลับมาดีขึ้น ลดอาการเจ็บหน้าอกและป้องกันการเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด
•ลดภาวะแทรกซ้อนจากโรคหัวใจ: การขยายหลอดเลือดและใส่ขดลวดช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และการเกิดหัวใจวาย

ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่า PCI จะเป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังมีความเสี่ยงบางประการที่อาจเกิดขึ้นได้ ได้แก่:
1.การเลือดออก: การทำ PCI ต้องเจาะเส้นเลือดเพื่อใส่สายสวน ซึ่งอาจทำให้เกิดเลือดออกได้ โดยเฉพาะบริเวณที่ใส่สายสวน
2.ภาวะการตีบซ้ำ: หลายครั้งที่หลอดเลือดหัวใจอาจตีบซ้ำหลังจากการทำ PCI โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์
3.การเกิดลิ่มเลือด: หลังจากการทำ PCI อาจมีการสร้างลิ่มเลือดที่อาจอุดตันในหลอดเลือด ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
4.ภาวะเลือดแข็งตัว: การติดตั้งขดลวดในหลอดเลือดอาจกระตุ้นให้เกิดการแข็งตัวของเลือด ซึ่งอาจทำให้เลือดแข็งตัวในบริเวณที่ทำ PCI

การดูแลหลัง PCI
หลังการทำ PCI ผู้ป่วยจะได้รับยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด (antiplatelet drugs) เพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดที่ได้รับการขยาย และจำเป็นต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ในช่วงหลังการทำ PCI นอกจากนี้ ผู้ป่วยยังควรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น:
•ควบคุมการรับประทานอาหาร: ลดอาหารที่มีไขมันสูง ลดการบริโภคเกลือและน้ำตาล
•การออกกำลังกาย: การออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจและลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจ
•การเลิกบุหรี่: บุหรี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดหัวใจตีบตัน การเลิกบุหรี่ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจและหลอดเลือด
•การควบคุมความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล: ควบคุมระดับความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลให้เหมาะสมเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคหลอดเลือดหัวใจ


สรุป
การทำ Percutaneous Coronary Intervention (PCI) เป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัดใหญ่ ช่วยลดอาการเจ็บหน้าอกและความเสี่ยงจากภาวะหัวใจขาดเลือด อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรติดตามอาการและปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในอนาคต.

 





เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้