โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

Last updated: 21 ก.ย. 2565  |  1404 จำนวนผู้เข้าชม  | 

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด


 Tetralogy of Fallot เป็นความผิดปกติของหัวใจที่เกิดขึ้นเมื่อแรกเกิด (กรรมพันธุ์) กล้ามเนื้อหัวใจที่มีห้องหัวใจสี่ห้อง ห้องบน atria ซ้ายและขวา และห้องล่างซ้ายและขวา ทำหน้าที่สูบฉีดเลือด กล้ามเนื้อผนังกลั้นระหว่างห้องTetralogy of Fallot มีสี่ลักษณะ: (1) รูระหว่างห้องล่างที่เรียกว่า ventricular septal defect (VSD); (2) ถูกบล็อกการไหลของเลือดออกจากห้องด้านขวา (infundibular pulmonary stenosis); (3) ห้องล่างขวาที่ขยายและหนาขึ้น และ 4หลอดเลือดแดงเอออร์ตาที่รับเลือดผสมจากห้องล่างทั้งสองฝั่งที่มี เส้นเลือดเอออร์ตาคือหลอดเลือดแดงหลักนำเลือดที่อุดมด้วยออกซิเจนจากหัวใจไปยังร่างกาย รอยรั่วทำให้เลือดผสมระหว่างห้องล่างด้วยกันและความดันที่เพิ่มขึ้นทำให้ห้องล่างขวาใหญ่ขึ้น เลือดที่ออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้ริมฝีปากเขียว เล็บ และเนื้อเยื่ออื่น ๆ ของร่างกาย

สาเหตุ

ไม่ทราบสาเหตุที่แน่นอน

อาการ
เป็นผลจากหลอดเลือดอุดตันจากหัวใจห้องล่างขวา ผ่านVSDไปทางห้องล่างซ้าย อาการที่พบได้บ่อยคือ ปาก เล็บ หู แก้มเขียวคล้ำ เด็กบางคนจะนั่งยอง ๆ หลังออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยลดปริมาณเลือดที่ขาดออกซิเจนออกจากร่างกายห้องขวาไปห้องซ้าย อาการอื่น ๆ ได้แก่ อาการหายใจเร็วสั้นขณะออกแรง อ่อนแรง เป็นลมหมดสติ เสียง murmur ของลิ้นหัวใจ

วินิจฉัย
แพทย์อาจสงสัยในทารกหรือเด็กที่มีอาการตัวเขียวและเสียงหัวใจmurmur  เริ่มการตรวจโดย echocardiography ซึ่งใช้คลื่นเสียงเพื่อให้ได้ภาพหัวใจ และการไหลเวียนเลือด แพทย์ จะสั่งการตรวจเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) และการเอ็กซ์เรย์ทรวงอก หลังแพทย์ให้การวินิจฉัยอาจทำการสวนหัวใจ โดยใช้ท่อบาง ๆ ใส่เข้าไปในเส้นเลือดที่ขาและส่งผ่าน ไปยังหัวใจวัดความดัน ระดับออกซิเจน และระดับของเลือดผ่านห้องหัวใจ

รักษา
การผ่าตัดเป็นทางเลือกสำหรับเด็กเกือบทุกคนที่มีความผิดปกติ การผ่าตัดเกี่ยวข้องกับการปิด VSD ด้วยแผ่นแปะ และบรรเทาการอุดตันของเลือดที่ไหลเวียนจากหัวใจห้องขวาไปยังปอด

ควรไม่ควร
ควรทราบว่า tetralogy ของ Fallot พบได้ไม่บ่อย
ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจของเด็ก (โรคหัวใจในเด็ก)
ควรทราบว่าเด็กที่มี Tetralogy of Fallot ต้องใช้ยาปฏิชีวนะก่อนทำฟันหรือผ่าตัดลำไส้ หรือกระเพาะปัสสาวะเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่หัวใจ
ควรโทรหาแพทย์หากบุตรของท่านมีอาการตัวเขียวหรือมีปัญหาการหายใจ

ควรทราบว่ามีคนน้อยกว่า 3% ที่มีความผิดปกติอยู่ได้ถึงอายุ 40 โดยไม่ต้องผ่าตัด

อย่าลืมว่าเกือบ 40% ของผู้ที่มี tetralogy นี้จะมีความผิดปกติของหัวใจอื่น ๆ เช่น ASD ข้อบกพร่องของผนังกั้นหัวใจห้องบนและขาดหลอดเลือดแดงปอด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้