Last updated: 6 ส.ค. 2567 | 2437 จำนวนผู้เข้าชม |
โรคท้องผูก
เกิดจากลำไส้เคลื่อนตัวน้อยกว่าปกติ ไม่สามารถระบุได้แน่นอนว่าลำไส้จะเคลื่นอตัวประมาณกี่ครั้งต่อวัน บางคนเคลื่อนตัววันละสามครั้ง บางคนสามวันเคลื่อนตัวหนึ่งครั้ง แต่หากมีการเคลื่อนตัวของลำไส้ที่ผิดไป ความถี่ หรือลักษณะอุจจาระที่เปลี่ยนไปต้องสงสัยเกี่ยวกับมะเร็งลำไส้
สาเหตุ
ท้องผูกเกิดจากการเคลื่อนตัวช้าของลำไส้ สาเหตุเกิดจากดื่มน้ำน้อย หรือกินอาหารที่มีกากใยน้อย ขยับตัวน้อย ตั้งครรภ์ เดินทางเที่ยวต่างที่ ความเครียด หรือภาวะที่อันตรา ลำไส้อุดตันเนื่องจาก มะเร็งลำไส้ ถ่ายยากเนื่องจาก การใช้ชีวิตผิดปกติไป ยาจำพวกบรรเทาอาการ ยากล่อมประสาท ยาต้านอาการแพ้ ยาต้านเศร้า หรือสาเหตุอื่นๆ
อาการ
อุจจาระแข็งและแห้ง ปวดท้อง และบวม มีเลือดออกขณะเบ่งอุจจาระ รู้สึกลำไส้เคลื่อนที่ตลอดเวล
การวินิจฉัย
วินิจฉัยจาการซักประวัติการักษารวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันที่เปลี่ยนไป เช่นความเครียด การเดินทาง การดืมน้ำยาที่กินประจำ และตรวจดูท้อง ร่วมกับตรวจทวารหนัก เกี่ยวริดสีดวงทวาร และหูรูดทวารหนักเป็นแผล ดูลักษณะของอุจจาระและส่งอุจจาระหาว่ามีเลือดปนออกมาหรือไม่ หากมีเลือดปนจริง ผู้ป่วยต้องส่องกล้องเพ่อหาสาเหตุ และตรวจเลือดหาความเข้มข้นของเลือด หากส่องกล้องพบ ควรทำCT scan ท้องและอุ้งเชิงกรานต่อไป
การรักษา
เปลี่ยนการใช้ชีวิตด้วยการออกกำลัง กินน้ำเยอะๆอย่างน้อย6-8 แก้วต่อวัน ยาถ่ายยังไม่จำเป็นต้องใช้ หากปรับการใช้ชีวิตแล้วไม่ดีขึ้น ให้กิยาถ่ายจากธรรมชาติเชน น้ำลูกพรุน ขับถ่ายให้เป็นเวลา หรือดื่มกาแฟหรือน้ำอุ่นเพื่อช่วยกระตุ้นลำไส้ สำหรับคนที่ถ่ายยากปานกลางถึงรุนแรง ใช้ยาที่ช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น หรือสวนทวารหากจำเป็น
สิ่งที่ควรทำ
ควรแจ้งแพทย์ถึงยาถ่ายที่ผู้ป่วยใช้ประจำ
ควรกินอาหารที่มีกากใย
ควรกินน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย
ควรหลีกเลี่ยงยาต่อต้านสารก่อภูมิแพ้ซึ่งเป็นเหตุของท้องผูก
ควรพบแพทย์หากทำทุกวิธีแล้วไม่ดีขึัน
ควรพบแพทย์ทันทีเมื่อมีไข้
ห้ามทำ
ห้ามใช้ยาถ่ายเป็นประจำ
ห้ามสวนล้างลำไส้บ่อย
ห้ามเพิกเฉยต่อการท้องผูกเพราะอาจเป็นสาเหตุของอาการอื่นๆ