ถุงน้ำต่อมบาร์โธลิน

Last updated: 8 ธ.ค. 2564  |  84960 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ถุงน้ำต่อมบาร์โธลิน

ถุงน้ำต่อมบาร์โธลิน


        ต่อมบาร์โธลินอักเสบมีลักษณะบวมเป็นถุงออกมา เป็นข้างเดียวหรือสองข้างก้ได้บริเวณด้านข้างของปากช่องคลอด เกิดขึ้นได้เมื่อเกิดการอุดตันบริเวณต่อม ซึ่งจะไม่ติดเชื้อถึงแม้ไม่ได้รับการรักษา

สาเหตุ 
  หลายครั้งที่ ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งแบคทีเรียหลายๆชนิดสามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อและขยายขนาดของถุงน้ำ และเกิดได้ในเพศหญิงทุกคน อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์ หรือมีเบาหวาน ยิ่งทำให้เกิดถุงน้ำนี้ง่ายขึ้น ถุงน้ำเกิดการติดเชื้อได้ในผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์

อาการ
  อาการหลักคือ จะบวมเป็นถุงน้ำบริเวณใกล้ๆปากช่องคลอด แต่ไม่เจ็บ แต่หากมีการติดเชื้อจะทำให้มีอาการปวดได้ ซึ่งทำให้เดินลำบากและเจ็บตอนมีเพศสัมพันธ์

การวินิจฉัย 
 แพทย์จะตรวจบริเวณรอบๆปากมดลูกในตำแหน่งที่บวม อาจจะใช้เครื่องมือเก็บตัวอย่างเมื่อต่อมมีการติดเชื้อ และตรวจเลือดในเรื่องของมีการติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ และแนะนำให้พบแพทย์เฉพาะทางด้านนรีเวชเพื่อรักษาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

การรักษา 
 ถ้าเป็นถุงน้ำเล็กสามารถหายเองได้ แพทย์จะนัดติดตามอาการทุก2-3เดือนเมื่อต่อมขนาดไม่เล็กลงหรือมีอาการแย่ลง. ซึ่งถุงน้ำที่มีการอักเสบสามารถรักษาโดยแช่อ่างน้ำร้อน หรือให้ยาปฏิชีวนะ จุดสำคัญมาตามนัดแพทย์และกินยาตามที่แพทย์สั่ง ถ้ายังอาการไม่ดีขึ้น จะส่งปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านนรีเวชหรอศัลยแพทย์เผื่อเอาหนองออก ซึ่งเพียงกรีดแผลบนถุงน้ำเล็ก และเย็บรอบๆบริเวณที่กรีด ก้จะทำให้น้ำหนองไหลออกมาได้เอง ถ้าผู้ป่วยมีการอักเสบบ่อยครั้งจำเป็นต้องผ่าตัดนำเอาต่อมบาร์โธลินออก


    สิ่งที่ควรทำ
ควรใช้เครื่องมือแพทย์ในการจี้ความร้อนกินยาปฏิชีวนะ และมาพบแพทย์ตามนัด
ควรฝึกรักษาความสะอาดและป้องการติดเชื้อ หลังจากเข้าห้องน้ำ ให้เช็ดทำความสะอาดจากด้านหน้าไปหลังเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียจากรูก้นเข้าสู่ช่องคลอด
ควรระวังเรื่องการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันโรคติดต่อ
ควรเช็คให้แน่ใจว่าสามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์หากป่วยเป็นเบาหวานเพราะหากน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้แผลหายช้า
 ควรพบแพทย์ทันทีเมื่อมีไข้และบวมที่บริเวณขาหนีบ
 ควรพบแพทย์ทันทีเมื่อมีน้ำหนองไหลออกจากถุงน้ำ


   ห้ามทำ
ห้ามใช้มือบีบถุงน้ำ ซึ่งส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายไปบริเวณข้างเคียงได้
ห้ามมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบ เพราะอาจจะทำให้เจ็บและเกิดการติดเชื้อขึ้นได้

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้